วิดีโอ มาร์เก็ตติ้ง กลยุทธ์ขั้นเทพของธุรกิจ ที่คุณต้องเริ่มทำ


ปัจจุบันวิดีโอมาร์เก็ตติ้ง ได้กลายเป็นกลยุทธ์ขั้นเทพสำหรับการสร้างแบรนด์ ซึ่งแบรนด์ต้องใช้วีดีโอในการนำเสนอธุรกิจ สินค้า ตลอดจนผลิตภัณฑ์ ผู้บริโภคส่วนใหญ่ชอบดูวิดีโอ เพราะวิดีโอ เป็นหนึ่งในเครื่องมือการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดเครื่องมือหนึ่ง และวีดีโอเป็นช่องทางเดียวในการเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างสม่ำเสมอ เพียงแค่โทรศัพท์เครื่องเดียว เราก็สามารถถ่ายวิดีโอ 4K พร้อมโปรแกรมตัดต่อเสร็จสรรพ แถมเว็บโซเชียล มีเดียต่างๆ ก็หันมาสนับสนุนการทำวิดีโอคอนเทนต์กันหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Facebook ,Youtube และ Instagram เมื่อเทคโนโลยีพร้อม ต้นทุนการผลิตต่ำ เว็บโซเชียลมีเดีย สนับสนุน แล้วจะมีเหตุผลอะไรที่คุณจะไม่เริ่มทำวิดีโอเพื่อสื่อสารกับลูกค้าล่ะคะ

video Marketing
วิดีโอ มาร์เก็ตติ้ง กลยุทธ์ขั้นเทพของธุรกิจ ที่คุณต้องเริ่มทำ เพราะการทำวีดีโอมาร์เก็ตติ้งไม่จำเป็นต้องลงทุนสูง เพียงมีสมาร์ทโฟนและแอป Facebook ก็สามารถสร้างสรรค์งานดีๆได้แล้วล่ะคะ นอกจากการจัดแสง เสียง และสถานที่แล้ว อีกหนึ่งกุญแจสำคัญคือการให้พิธีกรพูดคุยกับผู้ชมด้วยท่าทางที่เป็นกันเอง ถามตอบกันแบบเพื่อน เท่านี้ก็สามารถมัดใจลูกค้าได้ไม่ยากเลยคะ โดยการสร้างเรื่องราววนั้นต้องการ “คอนเทนต์” และคอนเทนต์ที่น่าจะมาแรงและโดนมากที่สุด น่าจะเป็นคอนเทนต์ในรูปแบบวิดีโอ เพราะว่าเล่าเรื่องได้ทั้งภาพ เสียง รวมทั้งนักการตลาดเองก็วัดง่าย เพราะว่ามียอดวิวให้เห็น และวัดได้เลยว่าช่วงเวลาไหนที่คนเข้ามาชมมากที่สุด
แล้วมีเหตุผลอะไรที่คุณจะต้องเริ่มทำวิดีโอมาร์เก็ตติ้ง เพื่อสื่อสารกับลูกค้าล่ะ งั้นลองมาดูเหตุผลที่จะทำให้คุณเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งว่าทำไมธุรกิจจึงขาดวีดีโอมาร์เก็ตติ้ง ไม่ได้
1. คนใช้มือถือชอบดูและแชร์ วิดีโอ เมื่อคอนเทนต์มาร์เก็ตติ้งและวีดีโอมาเจอกัน รับรองว่าคุณจะสามารถมอบรสนิยมที่ดีและเข้าถึงความคิดของผู้บริโภคได้อย่างแน่นอน ผู้บริโภคจะแชร์คอนเทนต์ที่โดนใจ ซึ่งจะเป็นอีกหนทางทำให้พวกเขาเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณบ่อยขึ้น และยังเป็นการเพิ่มอัตรา conversion อีกด้วย
2. โซเชียลมีเดียมาร์เก็ตติ้ง คนทั่วโลกต่างใช้โซเชียลมีเดียในการอัพเดตข่าวสารและแชร์ความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆ ในชีวิตประจำวัน ร้านไหนที่ต้องการปิดการขายด้วยหน้าเว็บหน้าเดียว (Landing Page) การใส่วิดีโอเข้าไปจะทำให้เพิ่มโอกาสเปลี่ยนจากคนดูเป็นลูกค้าได้ถึง 80% และถ้าแนบวิดีโอไปในอีเมลด้วย Conversion rate จะสูงถึง 300% เลยล่ะคะ และวีดีโอเป็นเครื่องมือที่ดึงดูดใจมากที่สุด
3. ง่ายต่อการค้นหา บทความบนเว็บไซต์ไหนที่มีวิดีโอแนบอยู่ในนั้น Google จะจัดอันดับการค้นหาให้สูงขึ้นถึง 53 เท่า เมื่อเทียบกับบทความที่ไม่มีวิดีโอ เหตุผลหนึ่งเพราะ Youtube ก็เป็นส่วนหนึ่งของ Google นั่นเองค่ะ ส่วน Facebook ให้ความสำคัญกับการทำวิดีโอคอนเทนต์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเปิดบริการ Facebook Live และเพิ่มค่าการเข้าถึงคอนเทนต์ประเภทวิดีโอ สูงกว่าคอนเทนต์ประเภทอื่นทั้งหมด และอนาคตอันใกล้ Facebook พร้อมแบ่งรายได้ค่าโฆษณาจากการผลิตวิดีโออีกด้วย โดยการค้นหาคือการดึงดูดความสนใจให้ผู้ใช้รับชมวีดีโอของคุณให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งเทคนิคนี้จะสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อวีดีโอคุณน่าสนใจมากพอ
4. ช่วยสร้างความเชื่อใจ วีดีโอคอนเทนต์จะช่วยเสริมสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ผู้บริโภคจะเชื่อมั่นในธุรกิจที่พวกเขารู้จักและเชื่อในสิ่งที่แบรนด์พูด คุณจะสามารถจัดการอารมณ์และสร้างความผูกพันกับลูกค้าได้ผ่านการนำเสนอวีดีโอ
นอกจากนี้ วีดีโอที่ดียังช่วยทำให้ทีมเซลล์สามารถขายของให้แก่ลูกค้าได้ง่ายขึ้นเพราะทั้งสองฝ่ายมีความเชื่อใจกัน
5. conversion และยอดขายพุ่ง เป้าหมายของกลยุทธ์การตลาดคือยอดขายวีดีโอจะช่วยขับเคลื่อนอัตรา conversion ในบรรดาเครื่องมือสำหรับคอนเทนต์มาร์เก็ตติ้งทุกประเภท วีดีโอมีระดับ ROI สูงที่สุด โดยงานวิจัยพบว่า คนทั่วไปกว่า 60% จะเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของแบรนด์หลังรับชมวีดีโอ ซึ่ง engagement ที่ดีจะนำไปสู่ยอดขายที่น่าพอใจ
วิดีโอ มาร์เก็ตติ้ง จึงเป็นกลยุทธ์ขั้นเทพของธุรกิจ ที่คุณต้องเริ่มทำ อีกหนึ่งกุญแจสำคัญคือการให้พิธีกรพูดคุยกับผู้ชมด้วยท่าทางที่เป็นกันเอง ถามตอบกันแบบเพื่อน เท่านี้ก็สามารถมัดใจลูกค้าได้ไม่ยากเลยคะ

 

 

 

 

Comments

comments


Like it? Share with your friends!

3 SHARES
505
3 SHARES, 505 points

วิดีโอ มาร์เก็ตติ้ง กลยุทธ์ขั้นเทพของธุรกิจ ที่คุณต้องเริ่มทำ

log in

Captcha!

reset password

Back to
log in
Choose A Format
Personality quiz
Trivia quiz
Poll
Story
List
Open List
Ranked List
Meme
Video
Audio
Image