เทรนด์ Graphic Design ที่ได้รับความนิยมในปี 2016
ซึ่งบทความนี้รวบรวมมาจาก กูรูด้านกราฟิกดีไซน์ สุดยอดเว็บไซต์ ของนักดีไซเนอร์อย่าง Behance และ Dribble มาดูกันว่า Graphic Design สไตล์ไหนที่จะวินในปี 2016 นี้บ้าง
โมเดิร์น Retro สไตล์ หรือ ย้อนยุคสุดแนว โดยจะเป็นงานกราฟฟิคที่มีกลิ่นอายแบบยุคสมัยเก่าหรือที่เราเรียกติดปากว่าเรโทร โดยเป็นลักษณะของภาพวาดที่ผสมผสาน เทรนด์เทคโนโลยี เช่นคอมพิวเตอร์ วิดีโอเกม แผ่นเสียง เทปคลาสสิก ธีมและศิลปะในช่วงต้นปี 1900 หรือยุค 60s จนถึงช่วงปลายปี 1970 ยุค 90s ถูกนำมาวาดใหม่ด้วยสีสันฉูดฉาดและด้วยรูปแบบ Flat Design ทำให้ความเก่ากลายเป็นความเก๋ขึ้นมาเลยล่ะคะ
Material Design มาจาก Google Material Design Google ซึ่ง Google ได้จัดระเบียบความคิดด้านการออกแบบอินเตอร์เฟซในอาณาจักรของ Google เพื่อเป็นไกด์ไลน์แก่นักดีไซเนอร์ ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน กราฟิกดีไซน์รูปแบบนี้เป็นกราฟิกสองมิติ ที่ถูกใช้งานเสมือนสามมิติ ใช้ชุดสีแสบสัน และฟอนต์ Roboto ที่งดงาม อ่านง่าย โดยหลักการออกแบบ ของ Material Design มีด้วยกัน 3 ข้อ คือใช้หลักการเลียนแบบ “วัสดุ” (material) ในโลกความเป็นจริง เน้นการใช้พื้นผิว (surface) และขอบ (edge) ใช้แสงเงา-ภาพเคลื่อนไหวเหมือนกับแสงเงา-การเคลื่อนไหวของวัตถุเชิงกายภาพ, เป็นการออกแบบที่ “ตั้งใจนำเสนอ” (intentional) ใช้วิธีการนำเสนอแบบเดียวกับสิ่งพิมพ์กระดาษ เช่น ฟอนต์ ที่ว่าง สีสัน ภาพประกอบ, แสดงการเคลื่อนไหว (motion) เพื่อบอกความหมาย (meaning) ของการกระทำ
กราฟิกสีสันสดใส เป็นอีกเทรนด์ที่น่าจะมาแรง โดยเทรนด์สีพาสเทล นีออนสดใส เมื่อปี 1960 ยุค 80s ผสมผสานกับสีของฤดูใบไม้ผลิ เทรนด์ 2016 แมตซ์กันได้อย่างลงตัว ดูสวยล้ำสมัยไปอีกแบบคะ
รูปทรงเรขาคณิต Geometric เป็นมรดกตกทอดมาจากเทรนด์ยุค 80s กลับมาเป็นกระแสอินเทรนด์ในปีนี้ โดยการใช้กราฟิกง่ายๆอย่าง สามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม วงกลม ลายขวาง ลายจุด เส้นเฉียง มาใช้เป็นองค์ประกอบหลักของการดีไซน์ ใช้แสงเงาให้เกิดภาพ 3 มิติ โดยอาจใช้ลูกเล่นที่การจัดวางให้มีรูปแบบเฉพาะเช่น Pattern หรือ การใช้ขนาดที่แตกต่างให้ดูน่าสนใจมากขึ้นคะ
Nagative Space หรือพื้นที่ว่างเปล่า การใช้ประโยชน์จากพื้นที่ว่างเปล่าทั้งส่วนเข้มและส่วนสว่าง ซึ่งใช้หลักการออกแบบโลโก้ โดยการใช้พื้นที่ว่างเปล่าพยายามสื่อความหมายของภาพกราฟิกที่มองได้ทั้งสองทาง
Modular Layouts คือการดีไซน์แบบ Card ที่เป็นที่นิยมในหมู่นักออกแบบเว็บไซต์ หรือ แอพพลิเคชั่น UI/UX นั่นเองค่ะ โดยรูปแบบของมันก็จะเป็นการนำส่วนต่างๆมาสอดประสาน ซ้อนทับ หรือรวมเข้าด้วยกัน ด้วย Grid System ที่ถูกกำหนด แต่จะคงความยืดหยุ่นสามารถสลับย้ายตำแหน่งกันได้โดยที่ Theme โดยรวมไม่เปลี่ยนไป จะเห็นเป็นลักษณะเหมือนการ์ดที่สามารถเลื่อนไปมา หรือการ์ดที่ซ้อนทับกันทำให้เห็นการ์ดแค่บางส่วนก็ได้ค่ะ
Dramatic Typhography การออกแบบ ผ่านสีพื้นผิวหรือการจัดเรียง ที่ควรจะมาพร้อมกับการบอกเล่าเรื่องราวและบุคลิก หรือที่มาที่ไปของตัวอักษรนั้นๆได้ด้วย อาจจะด้วยวิธีการที่หลากหลาย เช่นการใช้รูปทรง การทำเป็นงาน Craft หรือ การใช้ Texture ก็ได้ค่ะ
Illustration เฉพาะตัว หรือภาพประกอบเนื้อหา โดยการเลือกใช้ภาพประกอบที่แตกต่างและถูกสร้างสรรค์ขึ้นแบบเฉพาะตัว ที่ช่วยสื่อถึงอารมณ์ของแบรนด์นั้นๆคะ
Abstract Minimalistic สไตล์ที่เป็นเหมือนคู่ตรงข้ามกับกับความฉูดฉาดของยุค 80s เพราะมันคือความเรียบง่าย เส้นง่ายๆดูน้อย และมี Space เยอะ แต่ข้อความจะถูกเก็บไว้ให้น้อยที่สุด มาใช้งานร่วมกับรูปทรงที่ถูกบิดเบือนให้ดูเป็นนามธรรมแต่ยังคงความมินิมอลอยู่
Graphic Design เทรนด์ใหม่มาแรง ปี2016 พอจะโดนใจบ้างไหมคะ ขึ้นอยู่กับตัวคุณเองว่าจะนำไปปรับใช้ตามสไตล์ของตนเอง แต่ต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมกับงานของเราจริงๆก็พอคะ
โดย..เจ้าน้อย..