วิธีจัดการเรื่องอารมณ์ เมื่อต้องใช้โซเชียลเน็ตเวิร์ก โซเชียลเน็ตเวิร์กหรือโลกออนไลน์กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเรา หรือจะพูดว่าเป็นส่วนใหญ่ของชีวิตเราก็คงจะไม่ผิดนัก และหลายครั้งก็อาจทำให้เราอารมณ์เสีย หรือเสียสุขภาพจิตเอาได้ง่ายๆ เพราะการต้องติดต่อสื่อสาร หรือรับรู้เรื่องราวของผู้คนมากขึ้น แน่นอนว่าย่อมมีทั้งเรื่องจรรโลงใจ และเรื่องที่ทำให้รำคาญใจ โดยเฉพาะเมื่อใครก็ตามเข้ามาแสดงความคิดเห็นในแง่ลบต่อสถานะที่เราแชร์ออกไป ไม่ว่าจะเป็นเพจร้านค้า <spanhref=”http://www.graphicbuffet.net/%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B9%82%E0%B8%86%E0%B8%A9%E0%B8%93%E0%B8%B2-facebook-ads-%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B9%84%E0%B8%A5%E0%B8%84%E0%B9%8C%E0%B9%80/” target=”_blank”>เพจขายสินค้า เพจเพื่อความบันเทิง เพจเพื่อให้ความรู้ หรือ Facebook ส่วนตัว เพราะจะให้ทุกคนมาเข้าใจเราซะทุกเรื่องมันก็คงเป็นไปไม่ได้ วันนี้เราลองมาดูกันว่า เมื่อต้องเจอกับทัศนะคติลบของบุคคลที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นต่อโพสต์หรือสถานะของเราๆ จะมีวิธีจัดการอย่างไรได้บ้าง
ที่มา <spanhref=”http://webtrends.about.com/od/web20/a/social-media.htm”>webtrends
1.อย่าไปให้ความสนใจมากนัก ในความเป็นจริงหลายคนอาจจะบอกว่ามันทำยากนะที่จะไม่สนใจ ถ้ามันเป็นการกระทบต่อภาพลักษณ์ของเรา แต่ลองคิดดีๆนะครับ บางเรื่องที่เป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่คนให้ความสนใจถ้าเราไม่ควบคุมอารมณ์ให้ดีแล้วไปเล่นตามเกมของคนที่มายั่วยุ อาจเกิดผลเสียตามมากอย่างคาดไม่ถึง ให้ยึดคติที่ว่า “พูดไปสองไพรเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง” แล้วปล่อยให้เขาแพ้ภัยตัวเองดีกว่า หรือถ้ารุนแรงเกินทนได้ก็ให้ใช้กฎหมายเป็นตัวช่วยจะดีกว่าครับเพราะตอนนี้ พรบ.เรื่องคอมพิวเตอร์ก็สามารถช่วยจัดการกับสถานการณ์ หรือเรื่องราวที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับการใช้อินเตอร์เนตอย่างครอบคลุม หากเป็นเรื่องที่ทำให้เราเสื่อมเสีย หรือก่อกวนล่ะก็สามารถแจ้งความเอาผิดกับผู้ก่อกวนได้เลย
2.บางเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้ก็ควรอธิบายด้วยข้อเท็จจริงเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น เราเป็นเพจขายของแล้วเกิดความผิดพลาดในการจัดส่งสินค้า ลูกค้าเลยเอาระเบิดมาปาใส่หน้าเพจด้วยอารมณ์และความไม่เข้าใจ ในกรณีแบบนี้สิ่งที่ควรทำคือชี้แจงตามความเป็นจริง(อย่าแถ) ควรรับผิดชอบต่อความผิดพลาดที่เกิดขึ้น จะช่วยให้ทุกอย่างคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้นครับ แน่นอนว่าเมื่อคนเราโมโห อารมณ์เสียก็มักจะทำให้เกิดอารมณืขุ่นมัวและขาดสติ คุณควรจะแสดงความจริงใจ ขอโทษ ยอมรับผิด และน้อมรับคำติชมจากลูกค้า ไม่ใช่ไปเถียหรือใช้วาจาไม่สุภาพเพราะนอกจากจะทำให้อารฒณืเสียแล้ว ธุรกิจของคุรก็พลอยเสียหายไปด้วย
3. รู้จักพลิกสถานการณ์ เมื่อมีคนมาแสดงความคิดในเชิงลบเราอาจพลิกสถานการณ์ด้วยวิธีเหนือชั้นโดยนำข้อคิดเห็นร้ายๆเหล่านั้นมาปรับปรุงเพจให้ดีขึ้น เรียกว่ายืมดาบเขามาทำให้เราก้าวหน้า เปลี่ยนศัตรูเป็นแรงผลักดันทำให้เราก้าวหน้าขึ้นซะเลย ใครที่สามารถมองบวกได้แบบนี้นับว่าเป็นสิ่งที่ดีและควรทำเป็นอย่างยิ่งบางครั้งเปรียบเสมือนฟีดแบ็คที่ทำให้เราได้เรียนรู้ตัวเองและรู้ว่าคนอื่นมองเราอย่างไร อย่าเก็บมาเป็นอารมณืขุ่นมัว แม้มันจะทำได้ยากก็ตาม นำมาปรับปรุงร้านค้าหรือเพจของเราดีกว่า
4.เปลี่ยนจุดโฟกัส เมื่อมีคนคิดลบก็ต้องมีคนคิดบวก เราหันไปให้ความสำคัญกับแรงผลักด้านบอกดีกว่าแล้วปล่อยให้เขาแพ้ภัยตัวเองไป โดยที่เราไม่ต้องออกแรงหรือว้าวุ่นใจไปตามเกมของเขา มองข้ามและไม่ต้องสนใจ หรืออาจจะมองให้เป็นเรื่องตลกไป หากเราไม่สนใจ ไม่โต้ตอบ เชื่อว่าเดี๋ยวก็คงเลิกราไปเอง แค่นี้ก็เดินหน้าต่อได้แล้ว
5.ถ้าทำอะไรไม่ได้ก็ทำใจ บางเรื่องถ้ามันเป็นความผิดพลาดแล้วแก้ไขอะไรไม่ได้ ก็ต้องทำใจยอมรับ เมื่อเวลาผ่านไปเวลาจะช่วยทำให้เรื่องร้ายๆมันคลี่คลายได้เอง บางสถานการณืหากเรายิ่งเร่งรีบจะแก้ตัวหรือชี้แจงแต่อาจกลายเป็นเอาน้ำมันไปราดบนกองไฟโดยที่เราไม่ได้ตั้งใจ สู้เราถอยมาตั้สติสักนิดจนอารณ์เย็นลงสักหน่อย แล้วค่อย ๆ ชี้แจง หรือเล่าความจริงตั้งแต่ 1-10 ก็คงจะไม่มีใครว่าอะไร แถมยังช่วยทำให้คนอื่นเข้าใจสถานการณืดีขึ้น หากมีรูป หรือ ข้อความที่คุยกันก้อนำมาเป็นหลักฐานด้วยเลยเชื่อว่าปัญหาก็ย่อมสามารถแก้ไขไปได้ในทางที่ดีขึ้น ขอเพียงแต่เราต้องตั้งใจจริงที่จะแก้ปัญหา ทุกคนจะเข้าใจได้เองในที่สุดถึงแม้จะต้องใช้เวลาอยู่บ้างในการที่จะพิสูจน์ความจริงว่าเป็นอย่างไร
ดังนั้นการใช้โซเชียลเน็ตเวิร์คอย่างปลอดภัยและไม่ให้มากระทบอารมณ์ของเราจนขุ่นมัว เราต้องมีสติและรอบคอบคือทางออกที่ดีที่สุด ที่สำคัญอย่าเปิดเผยทุกสิ่งเกี่ยวกับตัวเราจนหมดเปลือก เพราะเราไม่มีทางรู้ว่าใครคิดกับเราอย่างไร บางครั้งการแสดงความเห็นในเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องของเราก็เช่นกัน หากใส่อารณ์หรือขุ่นมัวมากเกินไป เมื่อมีคนมาขัดแย้งหรือโต้ตอบ เราควรนิ่งและรับฟัง ไม่ใช่ตะบี้ตะบันเถียงว่าความคิดของเราต้องถูกเสมอ แบบนี้นอกจากไม่ทำให้อารณ์ดีขึ้นมาแล้ว ยังทำให้ส่งผลเสียต่อตัวเองอีกด้วย